ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยาเสพติด ได้ของกลางจำนวนมากมาย แต่การขยายผลเพื่อจับกุมตัวการใหญ่

และยึดทรัพย์สินของขบวนการค้ายังได้ไม่ถึงเป้าหมาย เพราะขบวนการค้าซุกซ่อนแนบเนียนมากขึ้น ปัญหาสำคัญที่ชาวบ้านเดือดร้อนมาก

คือ การแพร่ระบาด การขาย ผู้เสพยังเข้าบำบัดน้อยมาก. อยากให้แสดงความเห็นเพื่อจะได้นำไปเสนอ ปปส ต่อไป

                  พล ต ท วุฒิ วิทิตานนท์

                   ที่ปรึกษา ปปส.  อนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินฯ

1 อัตราการไหลของข้อมูล ไปสู่ศูนย์กลางการบัญชาการภาค ยังไม่เร็วพอ และเก็บไม่ครบประเด็น ในแต่ละวันทุกห้วง 8 ขั่วโมง

2 ห้องควบคุมเพื่อสังเคราะห์ข้อมูลที่เข้ามายังศูนย์ของแต่ละภาค ต้องมี ตร.ปปส และ ปปส ระดับผู้เชี่ยวชาญ

    เข้ามาคัดกรองข้อมูล  แล้วเข้าสู่การสั่งการตลอด 24 ชั่วโมง

3 การบริหารการควบคุมเส้นทางเลี่ยงด่านตรวจ ยังไม่เป็นภาพรวมเดียวกัน

ท่านครับผมเคยเป็น สว.สส.ภ.จว.เลย ช่วงที่ท่านเป็น ผบช.ภ.4 ผมเคยทำ i2 ของ จว.เลย นำเสนอท่านครับ ผมมีแนวคิดดังนี้

1. ทรรศนคติของคนกับยาเปลี่ยนไป ควรแก้ไขด้วยการปลูกฝังตั้งแต่เด็ก

2. ตำรวจเป็นคนจนตัวเล็ก รบกับคนรวยตัวใหญ่ มูลค่าการค้าสูงมาก จนผู้ค้าไม่สนใจแม้ถูกจับกุมไปบ้าง

3. การสั่งงาน นโยบายต่างๆ มักเป็นนามธรรม การตีความ นำไปปฏิบัติไม่มาตรฐานเดียวกัน

4. การให้ความรู้ วางมาตรฐานการทำงานแก่ชุดปฏิบัติ

5. การให้โอกาศทางสังคมแก่ผู้เสพ ไม่ตีตรา ซึ่งปัจจุบันแม้แต่ครอบครัวยังไม่ยอมรับ

6. ปัจจัยในการเข้าไปสู่ยาเสพติดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่วิธีแก้ปัญหาใช้วิธีเดียวกัน

7. ดำเนินการควบคู่กัน ทั้งบำบัด ปราบปราม ปลูกจิตรสำนึกให้ความรู้

ขอตอบอีกครั้งครับท่านครับ  ผม พ.ต.ท.ธนูศิลป์  มะโรณีย์ อดีต สว.สส.ภ.จว.เลย ปัจจุบันเป็น รอง ผกก.ฯ ที่อุดรฯ ผมคิดว่าการบริหารจัดการข้อมูลมีปัญหา เนื่องจาก เรามีหลายหน่วยที่มาทำงานบูรณาการกัน แต่เป็นการบูรณาการเพียงแต่เพียงฉากหน้า ไม่ได้บูรณาการข้อมูลกันอย่างแท้จริง ผมมีข้อคิดเห็นว่า เราน่าจะจัดทำแผนภูมิ หรือแผนที่ยาเสพติด โดย เริ่มข้อมูลจากผู้เสพ เช่น การนำข้มูลที่ได้จากการซักถามไปเขียนโครงข่าย หากเรานำผู้เสพมาเอาข้อมูลว่าเคยเสพกับใครบ้าง ขอ 3 คน เคยซื้อกับใครบ้าง ขอ 3 คน เคยโอนเงินบัญชีไหนบ้าง เคยโทรเบอร์ไหนเพื่อสั่งซื้อ ข้อมูลเรือนจำใครพ้นโทษมาแล้วบ้าง ข้อมูลทหาร ปกครอง เรื่องการประชาคม นำมาทำเป็นแผนภูมิรวม แล้วนำไปใช้ประโยชน์โดยจัดเป็นเหมือน Call center บริหารข้อมูล กำหนดชั้นความลับ การเข้าถึง  เพื่อให้ทั้งฝ่ายสืบ ฝ่ายปราบ ฝ่ายสืบทางลึกเกี่ยวกับทรัพย์ หรือฝ่ายสกัดกั้น รวมทั้ง ฝ่ายบำบัด นำไปใช้เป็นฐานในการทำงาน  ผมคิดว่าน่าจะดีกว่านี้อีกมากครับ ปัจจุบัน เจ้าหน้าที่แทบไม่ทราบว่าคนที่ตนตั้งด่านค้นอยู่ เคยมีประวัติหรือไม่ คนไหนน่าสนใจพิเศษ และฝ่ายบำบัดก็งง ไม่รู้จะไปตามใครมาดี  ผมเองหากมีโอกาศก็จะลองทำดูครับ เชื่อว่าน่าจะมีประโยชน์ในการกำหนดเป้าการทำงาน ครับ

  เรื่องนี้เคยเสนอมาแล้ว 10 กว่าปีที่แล้ว แต่ระบบเรามันแย่ครับ เสนอไปสำเรผ็จแต่ก็เปลี่ยนผู้นำ เป็นอย่างนี้ตลอด  ได้เสนอ ท่านอดุลย์ เลขา ป ป ส เห็นชอบแล้ว แต่เมื่อเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีใครเสนอต่ออีก  เรื่องก็จะเงียบหายไป ข้อมูลพื้นฐานจำเป็นมาก ทุกวันนี้ต่างคนต่างทำ จึงทำให้งานป้องกันปราบปรามยาเสพตอดไม่ไปถึงจุดหมายสักที  จับได้มากมายแต่การแพร่ระบาดหาหยุดไม่